ก่อนที่จะมีการเลื่อนการแข่งขันพาราลิมปิกในปี 2564 การคัดเลือกนักกีฬาว่ายน้ำมีเหตุการณ์ที่น่าแปลกใจเกิดขึ้น ในขณะที่มีการทดสอบด้านสมรรถนะทางร่างกายและประเมินทางเทคนิค นักกีฬาหญิงชาวไทยวัย 48 ปี มาลีอุตันนัน ได้ถูกตัดชื่อออกจากการร่วมการแข่งขัน ทางคณะกรรมการผู้คัดเลือกได้มีคำตัดสินร่วมกันว่า คุณมาลีอุตันนัน เป็นคนที่มีสุขภาพสมบูรณ์ดีทุกอย่าง แม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะพิการจากโรคข้อเข่า และเป็นนักกีฬาในกลุ่มประเภทที่มีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว

วันนี้เราจะมาพูดถึงเหตุการณ์ที่น่าประหลาดใจที่เกิดขึ้นกับหญิงคนนี้ แล้วจะรู้ว่าสิ่งมหัศจรรย์บางครั้งก็เกิดขึ้นได้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์คอยหนุนอยู่เบื้องหลัง เราได้พูดคุยกับคุณ มาลีอุตันนัน ที่เคยป่วยด้วยโรคข้อเข่าเสื่อมมาเป็นเวลานาน แต่ปัจจุบันนี้เธอรักษาหายขาดเรียบร้อยแล้ว อะไรคือสิ่งที่ทำให้เธอผู้นี้หายจากโรคข้อเข่าเสื่อมและกลับมามีชีวิตที่ปกติสุขอีกครั้ง

คุณ มาลีอุตันนัน เป็นผู้หญิงธรรมดาๆ ที่ไม่ได้ออกกำลังกาย ตลอดชีวิตที่ผ่านมาเธอทำงานในโรงงานสารเคมีหลายแห่งในกรุงเทพฯ มาลีอุตันนัน เกิดในครอบครัวใหญ่ เธอเป็นคนโตสุดในบรรดาพี่น้องทั้งหมด ตั้งแต่อายุ 16 ปี เธอก็เริ่มทำงานและปกติงานแบกหามที่ต้องใช้แรงมาก บ่อยครั้งที่เธอต้องลากกระสอบหนักๆ ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนพระอาทิตย์ตกดินโดยไม่มีแม้แต่เวลาพักหรือวันหยุด เป็นไปไม่ได้ที่การทำงานแบบนี้จะไม่ส่งผลต่อสุขภาพของเธอคนนี้ เธอป่วยด้วยโรคหลายโรค แต่ที่น่าเป็นกังวลที่สุดคือโรคข้อเข่า

มาลีอุตันนัน มีอาการข้อเข่าเสื่อม เธอดิ้นรนต่อสู่กับโรคนี้อยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ไปหาหมอ ทานยาตามที่หมอสั่ง ทานยาสมุนไพร ใช้ยาทามาตลอด แต่ก็ไม่มีอะไรที่ช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นได้ มีแต่อาการจะแย่ลง จะเดินแต่ละก้าวก็ลำบากพร้อมกับความเจ็บปวดสุดจะทน เมื่อมาลีอุตันนันได้รู้เข้าใจแล้วว่าเธอจะต้องหางานใหม่ เธอก็ไปทำงานเป็นมอเตอร์ไซด์รับจ้าง เวลาผ่านไปดูเหมือนทุกอย่างจะดีขึ้น แต่ต่อมาเธอก็ประสบอุบัติเหตุ ซึ่งทำให้เธอต้องเป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่ครึ่งปี โดยที่ไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้เลย

โรคข้อเข่าอักเสบและจากการที่เธอเคลื่อนไหวไม่ได้เป็นเวลานานทำให้เกิดเป็นภาวะข้อยึดติด ข้อเข่าไม่สามารถเคลื่อนไหวเพราะมีการขยายตัวของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน จึงยิ่งทำให้เธอเจ็บมากขึ้นกว่าแต่ก่อน การเคลื่อนไหวโดยไม่ต้องพึ่งใครช่วยนั้น มาลีอุตันนัน ทำได้ด้วยความยากลำบาก

การทานยา การนวด และกายภาพบำบัดก็เหมือนเดิมคือไม่มีประโยชน์ ส่วนค่าผ่าตัดก็แพงมาก หนึ่งในหมอที่รักษาแนะนำให้เธอเล่นกีฬาสำหรับผู้พิการ ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่จะช่วยให้ข้อเข่าได้มีการเคลื่อนไหว

และจากนั้นมา มาลีอุตันนัน ก็ได้เริ่มออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ เธอต้องฝึกในการเอาชนะความเจ็บปวดมากมาย ทุกวันเธอจะต้องทานยาแก้ปวด แต่หลังจากนั้นไม่กี่ปีเธอก็ได้เป็นผู้ชนะในการแข่งขันรายการต่างๆ

การว่ายน้ำและการเข้าร่วมการแข่งขันไม่ได้ช่วยให้เธอหายจากอาการเจ็บปวดที่ข้อเข่าได้เลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อเธอประสบความสำเร็จทางกีฬามากขึ้น เธอก็ได้รับการช่วยเหลือทางการแพย์มากขึ้น เป็นเรื่องธรรมดาที่วิทยาศาสตร์ทางกีฬาถือเป็นความก้าวหน้าอย่างมาก แต่วันหนึ่งนายแพทย์ใหญ่ด้านโรคกระดูกก็ได้ให้ยาซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ในการรักษาที่มีชื่อว่า B-Joint

คุณ มาลีอุตันนัน ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และทานยาติดต่อกันเป็นเวลา 4 สัปดาห์ ผลจากการเอ็กซเรย์กระดูกผลว่ากระดูกข้อเข่าของเธอนั้นหายกลับมาเป็นปกติสมบูรณ์แล้ว ผลของการรักษาแบบนี้ดูแล้วไม่น่าเชื่อ เราได้รับอนุญาตจากคุณมาลีอุตันนัน ในการนำเสนอภาพเธอในนี้

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนไม่เชื่อแม้ว่าจะเห็นผลเอ็กซเรย์นี้ก็ตาม แต่ก็เข้าใจได้ เพราะสิ่งที่การรักษาแบบยุคโบราณทำได้นั้นก็มีเพียงแค่การผ่าตัดในการเปลี่ยนข้อเข่าเท่านั้น

คุณมาลีอุตันนัน ได้เล่าว่า “ตอนที่ได้มีการแจ้งคำตัดสินจากคณะกรรมการเรื่องการคัดชื่อดิฉันออกจากทีม ดิฉันร้องไห้หนักมาก ทุกคนพากันปลอบใจดิฉัน บอกว่าเธอควรจะต้องดีใจมากกว่าสิ ที่เธอกลับมามีสุขภาพดีแล้ว” แปลกตรงตอนนั้นดิฉันไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย ดิฉันอยากไปร่วมงานพาราลิมปิกฤดูร้อนมาก และก็รู้สึกเสียดายที่ตัวเองถูกคัดออกจากทีม

หลังจากที่ความปวดหายไป ก็รู้สึกว่าการขยับขามันง่ายขึ้น รู้สึกดีมากขึ้น ตอนนั้นแหละรู้เลยว่าความสุขในชีวิตมันเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะไปหาใครจะไปไหนก็ไปได้หมด ไม่ต้องมานอนอยู่บ้านทั้งวัน รู้สึกว่ามีอารมณ์อยากว่ายน้ำและออกกำลังกายต่อไป ยิ่งไปกว่านั้นดิฉันยังได้สานฝันในวัยเด็ก คือซื้อจักรยาน แต่หลังจากซื้อมาแล้วก็ต้องหัดขี่อยู่เป็นเดือน แต่ในที่สุดก็ขี่เป็น เข่าใช้งานได้ดีเหมือนได้เข่าใหม่ ไม่มีอาการปวดใดๆ อีกเลย และที่เป็นอย่างนี้ได้ก็เพราะยามหัศจรรย์ตัวนี้

เราได้ติดต่อกับหมอแพทย์ด้านเวชศาสตร์กีฬาที่ทำการรักษาคุณมาลีอุตันนัน ซึ่งก็คือนายแพทย์ ศักดาอานันท์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมกระดูกกว่าสามสิบปี เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การกีฬาของสมาคมการแพทย์นานาชาติทางด้านกีฬา ผู้ซึ่งคิดค้นผลิตภัณฑ์ยาในการรักษาโรคเรื้อรังและการบาดเจ็บของระบบกล้ามเนื้อและกระดูก โดยคุณหมอได้ให้สัมภาษณ์กับทางเราไว้ดังนี้

B-Joint เป็นผลิตภัณฑ์ยาตัวใหม่ที่คิดค้นขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวไทย โดยยาตัวนี้ช่วยรักษาอาการปวดบริเวณหลังและเข่าได้ตั้งแต่ 4 วันแรกหลังทำการรักษา แม้ในเคสที่มีอาการหนักก็สามารถรักษาหายได้ภายในเวลาไม่กี่เดือน ผมขอย้ำว่ามันคือการ รักษา ไม่ใช่การบรรเทาอาการ ผลิตภัณฑ์ B-Jointช่วยแก้ไขที่ต้นเหตุของอาการปวดด้วยการฟื้นฟูร่างกายถึงในระดับเซลล์ และช่วยฟื้นฟูสภาพของข้อเข่าให้กลับมาเป็นปกติ

ผลของการรักษาไม่เพียงแต่จะทำให้อาการปวดหายไปเท่านั้น แต่ยังช่วยฟื้นฟูร่างกายในระยะยาวโดยช่วยหยุดการเสื่อมของกระดูกอ่อนและเยื่อกระดูกข้อเข่า ซึ่งจะทำให้ทุกอย่างกลับมาสู่สภาวะปกติ

ส่วนผสมหลักๆในผลิตภัณฑ์ B-Jointก็จะเป็น: คอลลาเจนชนิดที่ 2, Ascorbic Acid, Collagen Peptide, Collagen Dipeptide, vitamin D... และอื่นๆ ส่วนประกอบที่ว่ามานี้จำเป็นต่อเนื้อเยื่อมากๆและต่างก็ช่วยทำงานฟื้นฟูจุดบกพร่องของกระดูกอย่างผสมผสานกัน

ผลจากการใช้ผลิตภัณฑ์ B-Joint: 

ปัจจุบันผู้ที่ป่วยด้วยโรคข้อเข่าเริ่มมีจำนวนมากขึ้น สามารถใช้ B-Joint เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยกับที่เกิดขึ้นกับ มาลีอุตันนัน

แน่นอนครับ จากสถิติแล้วคนที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไปกว่า 45% มีอาการของโรคข้อเข่าเสื่อม การใช้ชีวิตที่ไม่ได้มีการเคลื่อนไหว ความเครียด การทานอาหารเค็มจัดหรือหวาดจัด ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการเยื่อกระดูกอ่อนตัวและบางลง การเคลื่อนไหวแต่ละคั้งจะทำให้กระดูกเกิดการเสียดสีและเปลี่ยนรูป กระดูกจะเกิดการ “ขูด” กัน ซึ่งทำให้ปวด

ทุกอย่างนั้นเริ่มจากอาการเล็กๆ น้อยๆ เช่น รู้สึกเกร็งบ้าง รู้สึกหนักบ้าง หรือมีการติดเชื้อไวรัสขึ้น แต่น่าเสียดายที่คนไข้ส่วนใหญ่ไม่ให้ความสำคัญกับอาการเบื้องต้นเหล่านี้ เช่นเดียวกันกับคุณ มาลีอุตันนัน

สิ่งสำคัญที่จะต้องจำไว้อย่างหนึ่งก็คือ โรคข้อเข่าเสื่อมนั้นจะพาคุณไปสู่การเป็นคนพิการที่ต้องนั่งรถเข็นไปอีกหลายปี

สัญลักษณ์ของโรคข้อเข่า ได้แก่

ผมแนะนำให้แต่ละคนลองสำรวจตัวเองว่ามีอาการของโรคข้อเข่าเสื่อมเหล่านี้อยู่หรือไม่ ในกรณีที่พบอาการอย่างหนึ่งอย่างใดในนี้แม้แต่อาการเดียวให้รีบทำการรักษาด้วย B-Joint อย่างเร็วที่สุด และพึงระลึกว่าอาการของโรคนั้นยิ่งจะพัฒนาไปเร็วขึ้นหากว่าคุณเป็นคนที่มีน้ำหนักเกิน ทั้งนี้ก็เพราะหัวเข่าต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

คุณได้รับส่วนลด 50% 

เมษย์