เราพบคุณวัฒนาที่บ้านหลังเล็กหลังหนึ่งในเขตชานเมืองกรุงเทพฯ เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเล็กข้างโต๊ะน้ำชา และเริ่มเล่าเรื่องราวของเขาให้เราฟัง
"เขามีครอบครัวเล็กๆอยู่ครอบครัวหนึ่ง มีภรรยาและลูกชายสองคน เมื่อ 12 ปีที่แล้ว ตอนที่ไปรับลูกของเขา เขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ มีรถชนเข้ากับรถของเขาโดยตรง
อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้นายวัฒนาซี่โครงหัก 3 ซี่ และต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล เขาใช้เวลาสี่เดือนในการฟื้นตัวที่โรงพยาบาล น่าเสียดายที่สำหรับเขา หูซ้ายของเขาได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงหลังจากอุบัติเหตุครั้งนั้น และหูขวาของเขาก็สูญเสียการได้ยินไปครึ่งหนึ่งด้วย "แพทย์สรุปว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้เส้นประสาทการได้ยินในหูข้างซ้ายและหูข้างขวาเสียหาย ซึ่งไม่น่าจะฟื้นตัวได้ หลังจากนั้น ผมก็พยายามทำทรีทเมนต์ทุกรูปแบบ แต่ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เลย” เขากล่าวอย่างเศร้าสร้อย

วันต่อมามันช่างเหน็ดเหนื่อยอย่างยิ่ง ผมมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการตามบทสนทนาของผู้คนรอบตัวผม บางครั้งผมก็รู้ว่าเอ๊ะ เอ๋ แกล้งทำเป็นเข้าใจเรื่องราว ผมเริ่มต้องเปิดทีวี วิทยุเสียงดังขึ้น บางครั้งมันกระทบกับภรรยาและลูกๆของผม เพื่อนบ้านก็บ่นด้วยเหตุนี้ บางครั้งการต้องขัดจังหวะคนอื่นเพื่อขอให้พวกเขาพูดซ้ำในสิ่งที่ผมพูดทำให้ผมรู้สึกอายมาก หลายปีต่อมา เมื่อลูกๆของผมโตไปเรียนมหาวิทยาลัยและแต่งงานออกเรือนไป พวกเขามักจะโทรกลับหาผม แต่การคุยโทรศัพท์ก็ทำให้ผมรู้สึกลำบากและเหนื่อย ความไม่สะดวกยังคงสะสมอยู่ ทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง และอารมณ์ของผมก็เริ่มร้อนรนมากขึ้น

ในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา ผมได้เดินทางไปสถานที่ต่างๆมากมาย กินยาทุกชนิด พบแพทย์มากมาย แต่ก็ไม่ได้ผล ทุกคนในครอบครัวของผมเข้าใจดีและคอยให้กำลังใจผมเสมอ
"แต่พระเจ้าไม่ทรงทำให้มนุษย์ผิดหวัง หลังจากพยายามค้นหาอย่างสิ้นหวังหลายครั้ง ในที่สุดโชคก็ยิ้มให้ผม ฤดูร้อนที่แล้ว ผมบังเอิญได้รู้ทางออนไลน์ว่ามีอาหารเสริมที่ช่วยเรื่องการได้ยินที่เรียกว่า Octavis ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ผมค้นคว้าและพบว่าผลิตภัณฑ์นี้ทำมาจากส่วนผสมจากธรรมชาติมากมาย ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการฟื้นฟูของผม ได้แก่:
#Vitamin A: ช่วยสร้างภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อในทางเดินหายใจ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น โดยช่วยสร้างเม็ดสีที่มีคุณสมบัติไวต่อแสง ช่วยให้ตาสู้แสงได้ในเวลากลางวัน รักษาอาการโรคตาฟาง หรือตาบอดในตอนกลางคืน ช่วยในการการสร้างเซลล์ใหม่ ช่วยปกป้องอวัยวะก้นหอย (คอเคลียร์) จากความเสียหาย ช่วยรักษาสุขภาพของหูชั้นใน
#Vitamin E (Tocopherol): มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยทำให้ผิวแลดูอ่อนกว่าวัย โดยชะลอกระบวนการเสื่อมสภาพของเซลล์ ช่วยให้หลอดเลือดหัวใจดีขึ้น โดยการเพิ่มกิจกรรมของไนตริกออกไซด์ซินเทส ซึ่งผลิตไนตริกออกไซด์ที่ทาให้เส้นเลือดคลายตัวได้ ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงของการแข็งตัวของหลอดเลือด ช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้โดยยับยั้งการสร้าง protein kinase C และ collagenase ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เซลล์มะเร็งโต ลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจก ต้านการอักเสบ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยปรับปรุงการตอบสนองของแอนติบอดี และยังทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินซีและอีช่วยป้องกันความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่นที่สามารถทำลายเซลล์ที่บอบบางของหูชั้นใน ช่วยให้เลือดไหลเวียนในหูชั้นในได้ดีขึ้น และช่วยลดความเสี่ยงของการสูญเสียการได้ยิน
#Vitamin C (Ascorbic acid): เป็นสารแอนติออกซิแดนท์ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่และลดการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ปกป้องผิวจากรังสี UV ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดความหยาบกร้านของผิว ช่วยในการสมานแผลได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นสารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิวหนัง ทำให้เนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อ และกระดูกมีความแข็งแรงช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของภูมิต้านทานต่อโรคติดเชื้อ ช่วยลดการอักเสบต่าง ๆ มีฤทธิ์เพิ่มการทางานของเม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งในการฆ่าเชื้อโรค ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน และช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและความดันในเลือด
#Folic Acid: เป็นวิตามินบีชนิดหนึ่งที่ร่างกายต้องการ จะช่วยเสริมสร้างกระบวนการผลิตเซลล์ใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่ตั้งครรภ์ Folic Acid ช่วยป้องกันการแท้งบุตร ความพิการแต่กำเนิดเกี่ยวกับสมองและกระดูกสันหลังของทารก Folic Acid ช่วยในการสร้างน้ำนมของมารดาหลังคลอดบุตร เป็นโคเอนไซม์ชนิดหนึ่ง ซึ่งจะช่วยให้กรดอะมิโนแตกตัวได้ดีขึ้น มีส่วนสาคัญในการสร้างเม็ดเลือด และช่วยให้เม็ดเลือดมีความแข็งแรงมากขึ้น ช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร แก้อาการอ่อนเพลีย และช่วยบารุงผิวพรรณและสุขภาพ
#Vitamin D: ช่วยดูดซึมแคลเซียม และฟอสฟอรัสซึ่งจำเป็นต่อความแข็งแรงของกระดูกและฟัน มีบทบาทสำคัญในการควบคุมกระบวนการสำคัญต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น การเพิ่มการหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน ช่วยปรับสมดุลน้ำตาลในเลือดและป้องกันโรคเบาหวาน และยังมีความสำคัญต่อการดูดซึมแคลเซียม แคลเซียมจำเป็นต่อการทำงานของกระดูกเล็กๆ ในหูชั้นกลางที่ส่งคลื่นเสียงไปยังหูชั้นใน
#Zinc amino acid: มีส่วนช่วยในการลดโอกาสจอประสาทตาเสื่อม อาการตาบอดกลางคืน ตาพร่ามัว และสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายได้ เป็นแร่ธาตุที่ช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและช่วยป้องกันการติดเชื้อในหู ควบคุมความสมดุลของของเหลวในหูชั้นใน สังกะสียังมีบทบาทในการซ่อมแซมเซลล์ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาสุขภาพของระบบอวัยวะการได้ยิน
#Alpha lipoic acid: เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ต้านอนุมูลอิสระทั้งในเซลล์และนอกเซลล์ได้ดี ละยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ และจากอาหาร เช่น Glutathione, Coenzyme Q10 , และ Vitamin C ซึ่งการทำงานเหล่านี้ จะช่วยรักษาหรือฟื้นฟูความผิดปกติในระบบภูมิคุ้มกันที่อาจนำไปสู่ภาวะการอักเสบเรื้อรัง ก่อให้เกิดโรค"

ขณะที่เขาพูด คุณวัฒนาแสดงกล่องยา Octavis ที่เขาใช้ให้เราดู ตามที่เขาพูดเลย หลังจากนั้นเพียง 2 สัปดาห์แรกอาการของเขาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขาเริ่มได้ยินเสียงชัดเจนขึ้นจากด้านซ้าย ในสัปดาห์ที่ 5 เขาต้องรู้สึกประหลาดใจเมื่อการได้ยินของเขาได้รับการฟื้นฟูเกือบทั้งหมด เขาร้องไห้ออกมาจริงๆ เพราะเสียงนั้นกลับมาหลังจากผ่านไปนานถึง 12 ปี ภรรยาและลูกๆของเขาได้ร่วมแบ่งปันความสุขกับเขา และครอบครัวเขาได้จัดงานเลี้ยงเล็กๆเพื่อเฉลิมฉลอง
ตอนนี้คุณวัฒนามีชีวิตที่แตกต่าง สุขภาพดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้น ความสุขกลับมาอยู่บนใบหน้าของเขา คุณวัฒนาเป็นหนึ่งในผู้ป่วยจำนวนมากที่รักษาจนหายจาก Octavis

พญ.ชาญวาด นาคประเสริฐ แพทย์หูคอจมูก

พญ.ชาญวาด นาคประเสริฐ แพทย์หูคอจมูก กล่าวว่า
ส่วนตัวแล้ว นอกเหนือจากการใช้เครื่องช่วยฟัง ผมมองว่าสิ่งที่ได้รับความนิยมเพื่อใช้ในการฟื้นฟูการได้ยินที่ได้ผลดีมากที่สุดคือผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อว่า Octavis และทุกท่านสามารถทานอาหารเสริมตัวนี้ได้ครับ ไม่ว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับหูที่รุนแรงมากน้อยแค่ไหนก็ตาม ประโยชน์ของอาหารเสริมจะช่วยในการฟื้นฟูการได้ยิน ไม่เพียงแค่มีประสิทธิภาพดีเท่านั้นแต่ยังปลอดภัยอีกด้วยครับ

อาหารเสริมตัวนี้ได้ผ่านการทดสอบที่ห้องปฏิบัติการที่ได้รับมาตรฐาน โดยได้ทำการทดสอบกับกลุ่มอาสาสมัครผู้ที่มีปัญหาการได้ยิน ผลการทดสอบพบว่า เคสที่หนักสุดคือ คนที่สูญเสียการได้ยินในระดับค่าเสียง 95 เดซิเบลขึ้นไป สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่ามีปัญหาการได้ยินที่รุนแรง คือแทบจะสูญเสียการได้ยินแล้ว แต่หลังจากที่มีการทานอย่างต่อเนื่อง ค่าเดซิเบลก็มีการปรับเป็น 70-90 เดซิเบล ส่วนคนอื่นๆที่มีปัญหาปานกลางถึงน้อย ค่าโดยรวมก็ดีขึ้น ผลแสดงว่ามีการเพิ่มการได้ยินอยู่ที่ 10-15 เดซิเบล

การทดสอบเพิ่มเติมในผลิตภัณฑ์ Octavis แสดงให้เห็นว่า หลังจากหยุดใช้งานไปแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ยังคงอยู่ มันคือการพิสูจน์แล้วว่านี่เป็นวิธีการฟื้นฟูระยะยาวที่ให้ผลถาวร หากมีการทานอย่างต่อเนื่องก็จะเป็นการบำรุงการทำงานให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ความสามารถในการฟังและการได้ยินจะดีขึ้นอยู่ที่เฉลี่ย 12 เดซิเบล